ประเด็นร้อน

แม้วดิ้นเบี้ยวภาษี 1.7 หมื่นล.

โดย aCT โพสเมื่อ Apr 21,2017

"เรืองไกร" ร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ครม.-สรรพากร สั่งประเมินภาษี "ทักษิณ" 1.7 หมื่นล้านไม่ชอบ กม. เผย "แม้ว" ครวญโดนกลั่นแกล้งหวังผลการเมือง ขู่กระทบปรองดองแน่

เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2560 ให้กรมสรรพากรทำการประ เมินภาษีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐ มนตรี จำนวนกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท และต่อมาเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้นำหนังสือประเมินภาษีที่ไม่มีการระบุเลขที่ไปปิดที่หน้าบ้านเมื่อ 28 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการใช้อำนาจโดยไม่มีหลักกฎหมายและผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ยุติไปแล้ว ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ อม.1/2553 และคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางที่ 242-243/2553 ซึ่งจากผลของคำพิพากษาทั้งสอง กรมสรรพากรจึงมีการสั่งยุติเรื่องไปแล้ว
          
โดยเอกสารราชการที่ถือเป็นหลักฐานเด็ด 2 ฉบับ คือ 1.บันทึกข้อความของสำนัก ตรวจสอบภาษีกลาง ที่ กค 0710/ตส/1460 ลงวันที่ 2 มี.ค.2555 ที่อธิบดีกรมสรรพากร มีคำสั่งให้ยุติเรื่อง และ 2.หนังสือกระทรวง การคลัง ที่ กค 0717/ล.1804 ลงวันที่ 15 พ.ย.2555 ที่ตอบไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า การซื้อขายหุ้นชินคอร์ปดังกล่าวจึงไม่เกิดขึ้นผล ก็คือเมื่อธุรกรรมการซื้อขายหุ้นไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้น นายทักษิณย่อมไม่มีเงินได้จากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปผ่านบริษัทแอมเพิลริช และการขายหุ้นชินคอร์ปให้กลุ่มเทมาเส็กเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2549 เป็นการขายในตลาดหลักทรัพย์ กำไรที่ได้จากการขายหุ้น จึงได้รับยกเว้นภาษีตามกฎกระทรวง
          
นายเรืองไกรกล่าวว่า กรณีดังกล่าวคณะรัฐมนตรี กรมสรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องรู้ถึงผลของคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลภาษีแล้ว รวมทั้งการสั่งยุติเรื่องตามข้อความในหนังสือทั้งสองฉบับด้วย ดังนั้น การหาเหตุมาประเมินภาษีครั้งนี้ จึงชัดเจนว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีอำนาจที่จะทำได้
          
"ในฐานะหนึ่งในทีมงานอดีตนายกฯ ทักษิณ ท่านยังบอกกับผมที่ดูไบเมื่อช่วงสงกรานต์ว่า เรื่องนี้น่าจะมีเหตุมาจากความไม่พอใจส่วนตัวของคนไม่กี่คนที่อาจอยู่เบื้องหลังกรณีนี้ คนที่รับไม้ต่อก็ทำไปโดยมีเจตนากลั่นแกล้งเพื่อหวังผลทางการเมือง ซึ่งการไม่ใช้กฎหมายอย่างนี้อาจส่งผลกระทบไปถึงการปรองดองด้วย" นายเรืองไกรระบุ
          
ทั้งนี้ การสั่งให้ประเมินไปก่อนแล้วให้นายทักษิณไปสู้คดีต่อในชั้นศาลดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวไว้ จึงเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าลักษณะความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมาย ป.ป.ช.อย่างชัดเจน รวมทั้งกรณีนี้ ป.ป.ช.ต้องทราบดีอยู่แล้วด้วย ตามหนังสือที่กระทรวงการคลังส่งให้ ป.ป.ช.ดังกล่าวข้างต้น ด้วยเหตุนี้ จึงต้องร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ทำการไต่สวนเอาผิดกับคณะรัฐมนตรีและกรมสรรพากรต่อไปโดยเร็ว โดยจะไปยื่นหนังสือด้วยตนเองที่สำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ ในวันที่ 21 เม.ย. เวลา 10.00 น.

- - สำนักข่าว ไทยโพสต์ วันที่ 21 เมษายน 2560 - -
อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ : goo.gl/KOfZUU